January 10, 2018

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจำแนกประเภทห้องปลอดเชื้อ​

มีปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการเลือกประเภทของห้องปลอดเชื้อ ทุกอุตสาหกรรมจะมีมาตรฐานในการเลือกประเภทของห้องของตนอย่างเช่น ในการบรรจุภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ ประเภทห้องปลอดเชื้อที่ใช้คือISO 7 (หรือประเภท10,000)

การปนเปื้อนเกี่ยวข้องกับประเภทของห้องปลอดเชื้ออย่างไร
ห้องปลอดเชื้อทั่วไปได้รับการออกแบบมาเพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมภายนอกเข้าสู่ระบบเมื่อมีการปนเปื้อนสภาพแวดล้อม ปัจจัยสองสิ่งที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนภายในคือมนุษย์และกระบวนการดังนั้นสิ่งปนเปื้อนที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์และสิ่งปนเปื้อนที่สร้างขึ้นโดยกระบวนการคือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง
‍
บ่อยครั้งที่สามารถสร้างประเภทของห้องปลอดเชื้อในระดับต่ำได้โดยที่ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาดไว้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในห้องปลอดเชื้อ ตัวอย่างเช่น ให้พนักงานสวมเครื่องแบบที่มีมาตรฐานสูงขึ้นการวางตำแหน่งหน้ากากลมกลับและระบบกรองอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสมภายในห้องปลอดเชื้อจะช่วยให้พื้นที่ภายในสิ่งแวดล้อมสะอาดมากขึ้น ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีการจัดห้องปลอดเชื้อโดยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าในพื้นที่เหล่านั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งปนเปื้อนและต่อสู้กับมันด้วยการออกแบบห้องปลอดเชื้อที่สมบูรณ์รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจะช่วยให้มีการประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากด้านการก่อสร้างและด้านการดำเนินงาน

ขนาดของอนุภาคสำคัญกับประเภทของห้องปลอดเชื้ออย่างไร
ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจสร้างห้องปลอดเชื้อคือขนาดของอนุภาคที่จะต้องถูกกรองออกตัวอย่างในหัวข้อนี้คือ หากมีคนต้องการการกรองน้อยกว่า100 อนุภาคต่อตารางฟุตภายในห้องปลอดเชื้อจากข้อมูลเหล่านี้พวกเขาจะพิจารณาใช้ห้องปลอดเชื้อประเภท ISO 5 (หรือประเภท100) อย่างไรก็ตามอาจเกิดปัญหาขึ้นได้หากพวกเขาไม่คำนึงถึงขนาดของอนุภาคที่พยายามกรองออก

ระบบไหลเวียนอากาศส่งผลอย่างไรต่อประเภทของห้องปลอดเชื้อ
เมื่อใดก็ตามที่มีการเพิ่มหรือลดประเภทของห้องปลอดเชื้อตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากประเภทISO 8 (ประเภท100,000) ไปเป็นISO 7 (ประเภท10,000) ซึ่งจะใช้อากาศเป็นสองเท่าค่าใช้จ่ายในการกรองและเคลื่อนย้ายอากาศเป็นต้นทุนที่สำคัญในการดำเนินงานห้องปลอดเชื้อซึ่งขั้นตอนนี้หมายถึงจำนวนของตัวกรองอากาศที่จำเป็นและปริมาณหน้ากากลมกลับที่ต้องใช้ รวมถึงจำนวนเครื่องปรับอากาศที่จะต้องให้ความเย็นกับอากาศที่ไหลไปและกลับ และนี่เป็นเรื่องที่ความสำคัญมากในกระบวนการนี้

ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยเกิดจากการที่ลูกค้าต้องการห้องปลอดเชื้อที่สูงเกินไปหรือเกินกว่าที่พวกเขาต้องการจริงๆหากคุณต้องการห้องปลอดเชื้อที่มีเพดานสูง8 ฟุตแต่ตัดสินใจที่จะสร้างให้สูงขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยรอบและทำให้สูง10 ฟุต ซึ่งเป็นการเปลี่ยนปริมาตรของพื้นที่ถึง25%ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มปริมาณอากาศที่จำเป็นสำหรับห้องปลอดเชื้อไป25% เพราะพวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างความสูง10 ฟุต ในขณะที่ต้องการเพียงแค่ความสูง8 ฟุตเท่านั้น

สิ่งที่ดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายดายกลับเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายของห้องปลอดเชื้ออย่างมาก โดยมีการเปลี่ยนแปลงไปถึง25% ในห้องปลอดเชื้อขนาดเดียวกันและประเภทเดียวกัน

Source:
‍ http://www.portafab.com/cleanroom-classification.html